- กองทุนเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหลักในต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ iShares Semiconductor ETF (กองทุนหลัก) กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับดัชนี ICE Semiconductor Index ซึ่งประกอบด้วยตราสารทุนของบริษัทในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกองทุนหลักจดทะเบียนซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา กองทุนจะลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนซึ่งส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
- ในสภาวการณ์ปกติกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยกองทุนจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุนจึงอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
ในส่วนที่ไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่า
เงินลงทุนเริ่มแรกได้ นอกจากนี้ การทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวอาจมีต้นทุน ซึ่งทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีมีเหตุการณ์อื่นใดที่เกิดจากสาเหตุหรือปัจจัยภายนอก
ที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือในกรณีที่ตลาดมีความผิดปกติ กองทุนอาจดำรงสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนน้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศเป็นการชั่วคราวได้
- กองทุนนี้จะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient portfolio management) และตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
- กองทุนอาจทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse repo) หรือ ธุรกรรมการให้ยืมหลักทรัพย์ โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ หรือตามที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
- กองทุนอาจลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยการลงทุนในหน่วยลงทุนดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนของกองทุนซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด ทั้งนี้ กองทุนปลายทางจะไม่สามารถลงทุนย้อนกลับในกองทุนต้นทาง (Circle investment) และกองทุนปลายทางจะไม่สามารถลงทุนต่อในกองทุนอื่นภายใต้บริษัทจัดการเดียวกันอีก (Cascade investment)
- บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิเปลี่ยนแปลงประเภทและลักษณะพิเศษของกองทุนรวมในอนาคตเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุน (Fund of Fund) หรือกองทุนรวมที่มีการลงทุนโดยตรงในตราสาร และ/หรือหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ หรือ สามารถกลับมาเป็นกองทุนรวม ฟีดเดอร์ (Feeder Fund) ได้ โดยไม่ทำให้ระดับความเสี่ยงของการลงทุน (Risk spectrum) เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ให้เป็นตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนโดยขึ้นกับสถานการณ์ตลาด และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุน อนึ่ง บริษัทจัดการจะดำเนินการแจ้งผู้ถือหน่วยลงทุนล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วันก่อนการดำเนินการเปลี่ยนแปลง โดยจัดให้มีข้อมูลเรื่องดังกล่าวที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือสำนักงานผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน (ถ้ามี) และ/หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัทจัดการ
(กองทุนสามารถลงทุนในทรัพย์สินอื่น ๆ ตามที่ระบุในนโยบายการลงทุนของกองทุน รวมถึงประเภทหลักทรัพย์ ในรายละเอียด
โครงการจัดการกองทุนและหนังสือชี้ชวนส่วนข้อมูลโครงการ โปรดศึกษารายละเอียดทั้งหมดเพิ่มเติม
https://am.kkpfg.com)
นโยบายการลงทุนของกองทุน iShares Semiconductor ETF (กองทุนหลัก)
- กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนี ICE Semiconductor Index (“ดัชนีอ้างอิง”) โดยดัชนีดังกล่าวใช้วัดผลตอบแทนของตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ตาม ICE Uniform Sector Classification schema (ที่กำหนดโดย ICE Data Indices, LLC (IDI หรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง รวมเรียกว่า”ผู้จัดทำดัชนี”( Index Provider)) และเป็นไปตามเกณฑ์ในการคัดเลือกที่กำหนดโดยผู้จัดทำดัชนี ซึ่งรวมถึงมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขั้นต่ำและข้อกำหนดด้านสภาพคล่อง บริษัทที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ จะรวมถึงบริษัทที่ผลิตวัสดุที่มีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้า (electrical conductivity) หรือสารกึ่งตัวนำ (semiconductors) ซึ่งใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวงจรไฟฟ้า หรือนำไปใช้กับเทคโนโลยี LED และ OLED นอกจากนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังรวมถึงบริษัทที่ให้บริการหรือผลิตอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ เช่น การบรรจุภัณฑ์ (packaging) และการทดสอบ (testing) ทั้งนี้ ดัชนีอ้างอิงดังกล่าว จะประกอบด้วยหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดขนาดใหญ่และปานกลาง (large- and mid-capitalization capitalization) ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเวลาผ่านไป โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ดัชนีอ้างอิงส่วนใหญ่ประกอบด้วยหลักทรัพย์ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์หรือเทคโนโลยี โดยส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป
- กองทุนหลักใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรับ (passive หรือ indexing approach) เพื่อพยายามให้บรรลุตามวัตถุประสงค์การลงทุน โดยไม่ได้มุ่งหวังที่จะเอาชนะดัชนีอ้างอิงและจะไม่ปรับสถานะการลงทุนให้เป็นลงทุนแบบปกป้องหรือเชิงรับ (defensive positions) ในสภาวะตลาดขาลงหรือตลาดมีระดับราคาสูงเกินปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนดังกล่าวจึงอาจไม่ได้ทำให้กองทุนหลักเอาชนะดัชนีอ้างอิง แต่ขณะเดียวกันก็อาจเป็นการลดความเสี่ยงบางส่วนของการบริหารจัดการเชิงรุก (active management) เช่น ความผิดพลาดในการเลือกหุ้นรายตัว ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนนี้มุ่งหมายที่จะลดต้นทุนให้ต่ำลงและมีผลการดำเนินงานหลังหักภาษีดีกว่า โดยมุ่งที่จะทำให้การหมุนเวียนการลงทุนของกองทุน (portfolio turnover) อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นที่มีการบริหารจัดการเชิงรุก
- กองทุนหลักจะลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 90 ของทรัพย์สินของกองทุนหลัก ในหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีอ้างอิง และตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์(depositary receipts) ของหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีอ้างอิง ส่วนที่เหลือกองทุนหลักอาจลงทุนในสัญญา futures options swaps เงินสด ตราสารเทียบเท่าเงินสด (ซึ่งรวมถึงกองทุนรวมตลาดเงินที่บริหารจัดการโดย BlackRock Fund Advisor หรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง) รวมถึง ทรัพย์สินอื่นที่ไม่ได้เป็นองค์ประกอบของดัชนีอ้างอิงซึ่ง BlackRock Fund Advisorเชื่อว่าจะช่วยให้กองทุนหลักสามารถเกาะดัชนีอ้างอิงได้ โดยกองทุนหลักมุ่งที่จะสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนีอ้างอิง ก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายของกองทุนหลัก
- กองทุนหลักอาจทำธุรกรรมให้ยืมหลักทรัพย์ ได้ไม่เกิน 1/3 ของทรัพย์สินของกองทุนหลัก (รวมหลักประกัน)
-ดัชนีอ้างอิงที่ใช้ของกองทุนหลักจัดทำโดย ICE Data Indices, LLC (IDI) ซึ่งเป็นอิสระจากกองทุนหลักและบริษัทจัดการผู้บริหารกองทุนหลัก(BlackRock Fund Advisor) ทั้งนี้ ICE Data Indices, LLC (IDI) เป็นผู้พิจารณาองค์ประกอบและสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของดัชนีอ้างอิง รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลของดัชนีอ้างอิงดังกล่าว
ผู้ลงทุนโปรดศึกษานโยบายการลงทุน และปัจจัยความเสี่ยงของกองทุนหลักเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ “ข้อมูลเพิ่มเติม” ในส่วนท้ายของเอกสารฉบับนี้
กองทุนหลักiShares Semiconductor ETF
นโยบายจ่ายเงินปันผลไม่จ่าย
บลจ.KKPAM
มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกTHB 1,000.00
วันที่จดทะเบียนกองทุน7 ก.ค. 2564
ระยะเวลาการรับเงินค่าขายคืนT+2 วันทำการ
ขนาดกองทุนTHB 942,886,887.56
ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน (Front-end Fee)ยกเว้น
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่มี
ค่าธรรมเนียมการจัดการ (ต่อปี)0.80%
นโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด/เกือบทั้งหมด
รวมค่าใช้จ่าย (ต่อปี)0.95%